โปรแกรม Adobe Photoshop CS5
การใช้โปรแกรมphoto shop ให้เกิดประโยชน์ในทางที่ดี
ความสามารถใหม่ของ Photoshop CS5
มีอะไรใหม่ใน Adobe Photoshop CS5
Adobe Photoshop CS5 เวอร์ชั่นนี้ถือว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ 12 แล้ว สำหรับผู้คุ้นเคยโปรแกรม Adobe Photoshop คงพอมองออกว่าหน้าตาและความสามารถใหม่่ๆ ของ Adobe Photoshop CS5 นี้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัด วันนี้เรามาทำตรวจสอบดูกัน สักนิดว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงและน่าสนใจบ้างฟีเจอร์ใหม่ของ Photoshop CS5 ที่น่าสนใจ
- หน้าตาที่เปลี่ยนแปลงไป
ถ้าเราเปรียบเทียบหน้าตา ของ Photoshop CS4 กับ Photoshop CS5 จะเห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก แต่ถ้าไปเปรียบเทียบกับ Photoshop CS3 หรือเวอร์ชั่นเก่าๆ ที่ต่ำลงมาก ก็จะพบว่าแตกต่างกันค่อนข้างมาก (แต่เป็นในทางที่ดีและสวยงาม) - อัพเดทให้ทันสมัยคล้ายกับ Windows 7
จะพบว่าการใช้ งานหลายๆ อย่างของ Photoshop CS5 จะมีความคล้ายคลึงกับ Windows 7 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแสดง Thumbnails บน Taskbar เพื่อแสดงฉบับย่อก่อนการคลิกเข้าไปดูจริง หรือเทคนิคการขยายหน้าต่างให้เต็มโดยการเลือกไปวางด้านบนหน้าของจอ เป็นต้น - Mini Bridge
ตัวช่วยอย่างหนึ่งของผู้ใช้งาน Adobe Photoshop ในเวอร์ชั่นก่อนคือ Adobe Bridge ซึ่งใช้สำหรับการแสดงภาพในลักษณะเดียวกับ Windows Explorer แต่นี่แสดงบน Photoshop โดยตรง ทำให้เราสามารถบริหารจัดการภาพได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาก็คือกินทรัพยากรของเครื่องมาก ทำให้เครื่องทำงานช้า แต่วันนี้มี Mini Bridge ให้ใช้งานเพิ่มเข้ามา น่าจะถูกใจอีกหลายๆ คน - ทำภาพเอียงให้ตรง
กรณีเรามีภาพเอียง เราสามารถให้ Photoshop ปรับภาพให้ตรงได้อัตโนมัติ โดยใช้คำสั่ง Ruler Tool และเลือกตำแหน่งสองจุดที่เอียง เพื่อให้ปรับภาพให้ตรง - ปรับแขนขาเหมือนหุ่น
อีกหนึ่งความสามารถใหม่ และดูจะเป็นความสามารถที่ค่อนข้างเด่นมากๆ นั่นคือ การปรับแขนขาของภาพ (ไม่จำเป็นต้องเป็นภาพคนก็ได้) สามารถปรับได้เช่นเดียวกับการปรับหุ่นเลยครับ สนใจต้องไปลองใช้คำสั่ง Puppet Warp (อยู่ในคำสั่ง Edit) - ลบภาพที่ไม่ต้องการออกแบบเนียนๆ
หลายๆ ครั่งรูปภาพที่เราถ่าย หรือภาพจากอินเตอร์เน็ต บางครั้งเรามีความจำเป็นจะต้องเอาบางส่วนของภาพออก การ retouch ภาพก็ต้องใช้เวลามากพอสมควร แต่วันนี้ Photoshop CS5 มีเครื่องมือเด็ดๆ ที่จะทำให้เราสามารถลบภาพที่ไม่ต้องการออกง่ายๆ โดยใช้คำสั่ง Content-Aware - HDR (High Dynamic Range)
สำหรับนักถ่ายภาพโดย เฉพาะ เพราะความสามารถนี้จะใช้สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงที่มืดและสว่าง จากนั้นก็ใช้ Photoshop ช่วยรวมภาพเพื่อให้ได้รายละเอียดของภาพที่สมบูรณ์มากขึ้น (ซึ่งปกติจะไม่สามารถถ่ายด้วยกล้องได้) คำสั่งนี้จะอยู่ที่หัวข้อ Automate Merge to HDR Pro - Lens Corrections
อีกหนึ่งความสามารถใหม่สำหรับนัก ถ่ายภาพโดยเฉพาะ การนำภาพจากกล้องดิจิตอลเข้ามาแก้ไขใน Photoshop สิ่งหนึ่งที่อาจมีความผิดเพี้ยนไปบ้าง โดยเฉพาะกับการนำไฟล์ประเภท RAW มาใช้และมีการแปลงเป็น Jpeg ผลลัพธ์ที่ได้อาจผิดไปบ้างจากต้นฉบับ เนื่องจากไฟล์ RAW ของแต่ละกล้อง ก็จะมีเทคนิดในการจัดเก็บแตกต่างกันไปบ้าง ดังนั้น Photoshop CS5 จึงมีการรวมรวบวิธีการของแต่กล้องมา เพื่อให้เวลาดึงภาพมาใช้งาน จะได้ผิดพลาดน้อยที่สุด คำสั่งนี้อยู่ในหัวข้อ Filter ครับ - เลือกบางส่วนได้ง่ายขึ้น
เวลาเราตกแต่งภาพ ขั้นตอนหนึ่งที่เป็นปัญหามากๆ ก็คือ การเลือกบางส่วนของภาพ หรือที่เราเรียกว่า Selection ทั้งนี้เพื่อจัดการในส่วนที่เราเลือก ไม่ว่าจะเป็นการลบภาพ ปรับแต่งสีสรร หรือการทำซ้ำ เพื่อไปใช้กับภาพหรืองานอื่นๆ คำสั่งนี้ก็คือ Quick Selection Tool ซึ่งปกติหลายๆ คนรวมทั้งผมด้วย มักจะใช้ Magic Wand Tool ซะมากกว่า
ความสามารถใหม่ของ Adobe Photoshop CS5 ยังไม่หมดน่ะครับ แต่เห็นว่าบางอย่างก็ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นเก่าๆ แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะทดสอบความสามารถใหม่ ทีมงาน ไอที-ไกด์ดอทคอม จะมาแนะนำให้กับคุณในโอกาสต่อๆ ไปครับ
- วิธีติดตั่ง
- วิธีที่1.
วิธีที่ 2.
วิธีที่ 3.
วิธีที่ 5.รายละเอียดเกี่ยวกับ License... กดปุ่ม Accept
วิธีที่ 6. พอกด Accept แล้วให้เรากลับไปยังไฟล์ติดตั่ง
วิธีที่ 8.กดที่ Generate แล้ว copy
วิธีที่ 9.กลับไปยังหน้าจอ Setup คลิกขวาที่ช่องserial number แล้วเลือก Paste
วิธีที่ 10.เมื่อใส่ serial number ที่ถูกต้องแล้วด้านขวาบนจะมีให้เลือกภาษาก่อน เลือกภาษาอังกฤษแล้วกด Next
วิธีที่ 11.หน้านี้สำหรับการลงทะเบียนตัวโปรแกรม เจ้าของแนะนำว่าห้ามลงทะเบียน
ให้กดปุ่ม SKIP THIS STEP เพื่อข้างขั้นตอนนี้ไป
วิธีที่ 12. หน้านี้เลือกโปรแกรมที่ต้องการจะเลือก
มีข้อสังเกตคือ สำหรับท่านที่ใช้ Windows รุ่น 32 บิท จะไม่สามารถลง 2 ตัวนี้ คือ
i. Adobe Photoshop CS5 (64 Bit) - ชื่อก็บอกแล้วว่า 64 bit ติดตั้งบน Windows 32 bit ไม่ได้
i. Adobe Photoshop CS5 (64 Bit) - ชื่อก็บอกแล้วว่า 64 bit ติดตั้งบน Windows 32 bit ไม่ได้
ii. Adobe Premier CS5 - ตัวนี้มีแต่ 64 bit เท่านั้น จะไม่มี 32 bit
iii. Adobe After Effect CS5 - ตัวนี้มีแต่ 64 bit เท่านั้น จะไม่มี 32 bit
แต่สำหรับท่านที่ใช้ 64 bit สามารถติดตั้งได้ทั้งหมด รวมทั้ง Adobe Photoshop CS5 ที่เป็นแบบ 32 bit ด้วยอันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่า จะให้ติดตั้งทั้ง 32 และ 64 bit ในเครื่องเดียวกันทำไม
iii. Adobe After Effect CS5 - ตัวนี้มีแต่ 64 bit เท่านั้น จะไม่มี 32 bit
แต่สำหรับท่านที่ใช้ 64 bit สามารถติดตั้งได้ทั้งหมด รวมทั้ง Adobe Photoshop CS5 ที่เป็นแบบ 32 bit ด้วยอันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่า จะให้ติดตั้งทั้ง 32 และ 64 bit ในเครื่องเดียวกันทำไม
วิธีที่ 13.Setup กำลังทำการ copy file ของโปรแกรมที่เราเลือกที่จะลงไปยังเครื่อง
วิธีที่ 14.ติดตั้งเสร็จแล้ว ICON ต่าง ๆ ในหน้าจอนี้จะน้อย เพราะผมเลือกที่จะติดตั้งแค่Photoshop 64 , InDesign , Illustrator , Fireworks และ Dreamweaverที่เหลือผมไม่ได้ใช้ ลงไปก็หนักเครื่องเลยเลือกที่จะไม่ติดตั้ง
เสร็จแล้วค่ะ คงเข้าใจกันนะค่ะ
image compression คืออะไร
image compression เป็นการขนาดน้อยที่สุดในไบต์ของไฟล์กราฟฟิกโดยปราศจากการลดระดับคุณภาพของภาพไปสู่ระดับที่ยอมรับไม่ได้ การขนาดขนาดไฟล์ยอมให้ภาพมากขึ้นได้รับการจัดเก็บในจำนวนรวมของพื้นที่ดิสก์หรือหน่วยความจำ สิ่งนี้ลดเวลาที่ต้องการสำหรับการส่งภาพบนอินเตอร์เน็ตหรือดาวน์โหลดจากเว็บเพจ
มีหลายวิธีที่ไฟล์ภาพได้รับการบีบอัด สำหรับอินเตอร์เน็ต มีสองวิธีที่นิยมในการบีบอัดฟอร์แม็ตภาพกราฟฟิกคือฟอร์แม็ต JPEG และ GIF โดยวิธี JPEG มักใช้กับภาพถ่ายมากกว่า ขณะที่วิธี GIF ได้รับการใช้ทั่วไปสำหรับศิลปเชิงเส้นและภาพอื่นซึ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตอย่างง่าย
เทคนิคอื่นสำหรับการบีบอัดภาพ รวมถึงการใช้ fractal และ wavelet วิธีเหล่านี้ไม่ได้รับการใช้อย่างกว้างขวางสำหรับอินเตอร์เน็ตในช่วงเวลาการเขียนนี้ อย่างไรก็ตาม วิธีคู่นี้ให้สัญญาเพราะพวกเขาให้อัตราส่วนบีบอัดมากกว่าวิธี JPEG หรือ GIF สำหรับภาพบางประเภท วิธีใหม่อีกแบบที่อาจจะแทนที่ฟอร์แม็ต GIF คือฟอร์แม็ต PNG
ไฟล์ข้อความหรือโปรแกรมสามารถบีบอัดโดยปราศจากความผิดพลาด แต่ขึ้นกับการขยายแน่นอน สิ่งนี้เรียกว่า lossless compression (การบีบอัดไม่สูญเสีย) ก่อนถึงจุดนี้ จะมีความผิดพลาด ในไฟล์ข้อความและโปรแกรม มีความสำคัญที่การบีบอัดต้องไม่สูญเสีย เพราะความผิดพลาดเดียวสามารถทำความเสียหายรุนแรงกับความหมายของไฟล์ข้อความ หรือเป็นเหตุให้โปรแกรมเรียกใช้ไม่ได้ ในการบีบอัดภาพ ตามปกติ การสูญเสียเล็กน้อยในคุณภาพสังเกตไม่พบ ไม่มี “จุดวิกฤติ” ขึ้นกับการบีบอัดทำงานอย่างสมบูรณ์ แต่นอกเหนือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อมีบางการยอมให้บางระดับสำหรับการสูญเสีย แฟคเตอร์การบีบอัดสามารถมากกว่าสิ่งนี้สามารถไม่ยอมรับการสูญเสีย ด้วยเหตุผลนี้ภาพกราฟฟิกสามารถได้รับการบีบอัดมากกว่าไฟล์ข้อความหรือโปรแกรม
ส่วนประกอบของโปรแกรม Photoshop Cs5
Photoshop Cs5 จะแตกต่างจาก Cs3 และ Cs4 ไปบ้างเล็กน้อย กล่าวคือโดยพื้นฐานจะคงเดิม แต่จะปรับการใช้งานให้ดูง่ายขึ้น มีการเก็บรวบรวมเครื่องมือที่เกี่ยวข้องเอาไว้ในที่เดียวกัน เพิ่มชุดเครื่องมือเข้ามาใหม่ และยังลดขั้นตอนการทำงานให้น้อยลง ทำให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ในเวอร์ชั่นนี้ได้เพิ่มคำสั่ง และแถบเครื่องมือที่ใช้บ่อย ๆ วางแยกออกมาจากกลุ่มเครื่องมือเดิม เช่น เครื่องมือปรับมุมมอง เครื่องมือปรับแต่งภาพที่รวมอยู่ในพาเนลเดียวกัน เช่น พาเนล Adjustments ส่วนการทำงานหลัก ๆ ยังคงอิงการใช้งานเหมือนเวอร์ชั่นที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งหน้าจอใหม่ของ Photoshop Cs5 ก็จะมีส่วนประกอบดังภาพ
ส่วนประกอบของโปรแกรม Photoshop Cs5
Application Bar (แอพพลิเคชั่นบาร์) จะเป็นแถบเครื่องมือที่เก็บปุ่มคำสั่งที่ใช้งานบ่อย ๆ เอาไว้ เช่น เปิดโปรแกรม Bridge หมุนพื้นที่ทำงาน ย่อ-ขยายภาพ, จัดเรียงวินโดว์ภาพ และจัดองค์ประกอบของเครื่องมือตามพื้นที่ใช้งาน (Workspace)
Menu Bar (เมนูบาร์) ประกอบด้วยกลุ่มคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้จัดการกับไฟล์, ทำงานกับรูปภาพ และใช้การปรับแต่งการทำงานของโปรแกรม โดยแบ่งเมนูตามลักษณะงาน นอกจากนี้บางเมนูหลัก จะมีเมนูย่อยซ้อนอยู่ โดยสังเกตจากเครื่องหมาย ซึ่งคุณต้องเปิดเข้าไปเพื่อเลือกคำสั่งภายในอีกที
Tool Panel (ทูลพาเนล) หรือ กล่องเครื่องมือ จะประกอบไปด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการวาด ตกแต่ง และแก้ไขภาพ เครื่องมือเหล่านี้มีจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีการรวมเครื่องมือที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กันไว้ในปุ่มเดียวกัน โดยจะมีลักษณะรูปสามเหลี่ยมอยู่บริเวณมุมด้านล่างดังภาพ เพื่อบอกให้รู้ว่าในปุ่มนี้ยังมีเครื่องมืออื่นอยู่ด้วย
Option Bar (ออปชั่นบาร์) เป็นส่วนที่ใช้ปรับแต่งค่าการทำงานของเครื่องมือต่าง ๆ โดยรายละเอียดในออปชั่นบาร์จะเปลี่ยนไปตามเครื่องมือที่เราเลือกจากทูลบ็อกซ์ในขณะนั้น เช่น เมื่อเราเลือกเครื่องมือ Brush (พู่กัน) บนออปชั่นบาร์จะปรากฏออปชั่นที่ใช้ในการกำหนดขนาด และลักษณะหัวแปรง, โหมดในการระบายความโปร่งใสของสี และอัตราการไหลของสี เป็นต้น
Panel (พาเนล) เป็นวินโดว์ย่อย ๆ ที่ใช้เลือกรายละเอียด หรือคำสั่งควบคุมการทำงานต่าง ๆ ของโปรแกรม ใน Photoshop มีพาเนลอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น พาเนล Color ใช้สำหรับเลือกสี, พาเนล Layers ใช้สำหรับจัดการกับเลเยอร์ และพาเนล Info ใช้แสดงค่าสีตรงตำแหน่งที่ชี้เมาส์ รวมถึงขนาด/ตำแหน่งของพื้นที่ที่เลือกไว้
การขยาย และลดขนาด Selection ใน Photoshop Cs5
วิธีขยาย Selection
สำหรับการขยาย Selection คือการเพิ่มพื้นที่ที่ได้เลือกไว้แล้วให้ขยายออกไปโดยรอบ ตามจำนวนพิกเซลที่ระบุ จากคำสั่ง Selection > Modify > Expand จากนั้นระบุค่าลงไปว่าจะให้ขยายออกไปกี่พิกเซล ดังขั้นตอนต่อไปนี้
1. สร้าง Selection
2. เลือกคำสั่ง Select > Modify > Expand และระบุค่าพิกเซลที่จะขยายในช่อง Expand By
วิธีลดขนาด Selection
สำหรับการย่อ Selection คือการลดพื้นที่ที่เลือกไว้ลงไปโดยรอบตามจำนวนพิกเซลที่ระบุ ทำได้โดยเลือกคำสั่ง Select > Modify > Contract แล้วระบุจำนวนตัวเลขพิกเซลที่ต้องการย่อลงไป ผลที่ได้คือ พื้นที่ที่เลือกไว้ถูกย่อเข้ามา ตามค่าในช่อง Contract By
1. สร้าง Selection
2. เลือกคำสั่ง Select > Modify > Contract และระบุค่าพิกเซลที่จะย่อในช่อง Contract By
การปรับรูปทรง Selection ใน Photoshop Cs5
การสร้าง Selection ที่ผ่านมา เราสามารถทำได้หลากหลายรูปทรง แต่บางทีก็ยังไม่ตรงกับความต้องการ เช่น อยากให้หมุนไปทางซ้ายนิด ทางขวาหน่อย หรือปรับย่อ-ขยายสัดส่วน โดยไม่ต้องใช้คำสั่ง ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือ Transform Selection ได้ โดยไม่มีผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อพิกเซลของภาพแต่อย่างใด
การปรับขนาด ย้าย หมุน และบิด Selection
เราสามารถปรับขนาด ย้าย หมุน และบิด Selection ที่สร้างไว้ เพื่อให้เข้ากับพื้นที่ที่ต้องการเลือกได้ โดยใช้เครื่องมือ Transform Selection ตามขั้นตอนดังนี้
1. สร้าง Selection เริ่มต้น
2. เลือกคำสั่ง Select > Transform Selection
3. ปรับขนาด ย้าย หมุน หรือบิด Selection โดยใช้ Bounding Box
หรือ 3. โดยการปรับค่าบนออปชั่นบาร์
4. คลิกหรือกดคีย์ Enter บนคีย์บอร์ด เพื่อจบการทำงาน
ตัดเฉพาะส่วนด้วยเครื่องมือ Crop
ถ้าหากรูปภาพมีขนาดใหญ่เกินไป หรือเราต้องการนำภาพมาใช้เพียงบางส่วน ก็เลือกตัดขอบภาพส่วนที่ไม่ต้องการใช้ทิ้งได้ ด้วยเครื่องมือ Crop ดังภาพ
1. คลิกปุ่ม Crop
2. เลือกพื้นที่ที่ต้องการ
3. กดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด เพื่อยืนยันการตัดภาพ หรือกดคีย์ Esc เพื่อยกเลิกการเลือก
ตัดภาพแบบ Perspective
บางครั้งเราอาจมีภาพที่อยู่ในมุมมองแบบเปอร์สเปคทีฟ หรือภาพที่ต้องเลือกแบบมีเหลี่ยมมีมุม ก็สามารถใช้ตัวเลือกบนออปชั่นบาร์ของเครื่องมือ Crop ได้โดยเลือก Perspective ก่อน แล้วไปคลิกปรับพื้นที่ภาพที่ต้องการจะตัดได้
ดังตัวอย่างเป็นภาพที่มีมุมมองแบบเปอร์สเปคทีฟ เมื่อเลือกขอบเขตแล้วกดคีย์ Enter ก็จะตัดภาพพร้อมกับปรับมุมมองภาพให้อยู่ในแนวตรงโดยอัตโนมัติ
ตัด และซ่อนพื้นที่
สำหรับคุณสมบัติใหม่ใน Photoshop Cs4 และ Cs5 ยังมีตัวเลือก Hide มาช่วยให้เราตัดภาพแบบซ่อนพื้นที่ตัดเอาไว้ (สถานะปกติจะเลือกเป็น Delete ไว้ คือลบทิ้ง) หากต้องการใช้งานใหม่สามารถแสดงกลับมาเต็มภาพเหมือนเดิม ได้เหมือนกันการบังภาพเอาไว้ก่อน ซึ่งภาพนั้นต้องอยู่ในเลเยอร์ปกติ ซึ่งต้องไม่ช่เลเยอร์ชั้น Background ดังภาพ
- หลังจากเลือก Hide แล้ว เราสามารถเลื่อนแสดงภาพที่ถูกซ่อนได้
การเลือกสีจากภาพด้วย Eyedropper ใน Photoshop
การเลือกสีสำหรับใช้งานอีกวิธีหนึ่งคือ การเลือกสีจากรูปภาพที่มีอยู่แล้ว โดยใช้เครื่องมือ Eyedropper คลิกเลือกสีที่ต้องการ ดังภาพ
วิธีการเลือกสีจากภาพด้วย Eyedropper
1. คลิก Eyedropper
2. เลือกค่าสีเฉลี่ยสำหรับพื้นที่
3. คลิกเลือกสี
Tip: ขณะที่ใช้เครื่องมือระบายสีต่าง ๆ เราสามารถสลับไปใช้เครื่องมือ Eyedropper ได้ชั่วคราวโดยกดคีย์ Alt ที่คีย์บอร์ดค้างไว้ แล้วคลิกเลือกสี เมื่อปล่อยปุ่ม Alt เมาส์ก็จะเปลี่ยนกลับไปเป็นเครื่องมือเดิม
วิธีการเปลี่ยนภาพสีเป็นภาพขาวดำด้วยคำสั่ง Desaturate ใน Photoshop
การเปลี่ยนภาพสีเป็นภาพขาวดำ Desaturate หรือการกดคีย์ Shift+Ctrl+U นั้นมีผลให้ภาพแปลงเป็นสี ขาวดำ ทันทีโดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่ม ซึ่งจะปรับภาพให้เหลือเพียงเฉดสีเทาคล้ายกับการเปลี่ยนภาพเป็นโหมดสี Grayscale แต่ผลของคำสั่งนี้ภาพจะยังคงอยู่ในโหมด RGB เช่นเดิม ซึ่งคล้ายกับคำสั่ง Black & White ที่ผ่านมา แต่สามารถลดความเข้ม-จางของสีได้ดีกว่า
วิธีเปลี่ยนภาพสีเป็นภาพขาวดำด้วยคำสั่ง Desaturate
1. เลือกคำสั่ง Image > Adjustments > Desaturate หรือกดคีย์ Shift + Ctrl + U บนคีย์บอร์ด
2. สังเกตภาพจะมีการเปลี่ยนแปลง
วิธีปรับสีภาพด้วย Vibrance ใน Photoshop
Vibrance เป็นคำสั่งใหม่ใน Photoshop Cs5 ที่จะช่วยปรับสีภาพให้มีชีวิตชีวามากขึ้น โดยเพิ่มความอิ่มตัวของสีในภาพ ซี่งมีอยู่ 2 แบบ คือ Vibrance คือการเพิ่มความอิ่มตัว หรือความสดของสีที่เป็นสีหลักในภาพ และ Saturation คือการเพิ่มความสดให้กับทุกสีในภาพโดยรวม
วิธีปรับสีภาพด้วย Vibrance
1. คลิกที่ปุ่ม Vibrance ดังภาพ หรือเลือกคำสั่ง Image > Adjustments > Vibrance
2. แล้วลองปรับแต่งค่าสี
แปลงภาพเป็นสี sepia ใน Photoshop
ภาพแบบโทนสีเดียวคือ การปรับลดสีให้เหลือเพียงสีเดียว ซึ่งนิยมนำมาใช้กับรูปภาพโดยทำให้เป็นภาพเก่าหรือที่เรียกกันว่า ภาพซีเปีย โดยมีขั้นตอนดังนี้
วิธีแปลงภาพเป็นสีซีเปีย
1. คลิกปุ่ม Hue/Saturation บนพาเนล Adjustments หรือคำสั่ง Image > Adjustments > Hue/Saturation
2. คลิกเลือก sepia
วิธีเปลี่ยนภาพเป็นสีตรงข้ามด้วยคำสั่ง Invert ใน Photoshop
Invert เป็นการเปลี่ยนสีต่างๆ ในภาพให้เป็นสีตรงข้าม เหมือนกับภาพที่ปรากฏบนฟิล์มถ่ายรูปแบบเนกาทีฟ (Negative) ทำได้ดังนี้
วิธีเปลี่ยนภาพเป็นสีตรงข้ามด้วยคำสั่ง Invert
1. คลิกปุ่ม Invert บนพาเนล Adjustments หรือคลิกเลือกคำสั่ง Image > Adjustments > Invert
2. ได้ผลลัพธ์ดังภาพ
การใช้ไม้บรรทัด (Ruler) ใน Photoshop Cs5
ไม้บรรทัด คือแถบวัดซึ่งจะปรากฏอยู่ด้านซ้าย และด้านบนของวินโดว์รูปภาพ แต่ละวินโดว์ (เมื่อถูกเรียกใช้) ประโยชน์ของไม้บรรทัดคือ ช่วยให้กำหนดระยะและตำแหน่งของการวาด การวางออบเจ็ค รวมทั้งให้ทำงานต่าง ๆ กับรูปภาพได้ง่ายขึ้น ซึ่งเลือกหน่วยวัดบนไม้บรรทัดได้ตามต้องการ ดังนี้
- เปิด/ปิดไม้บรรทัด ให้เลือกคำสั่ง View > Rulers (คีย์ลัด Ctrl+R)
- ดูตำแหน่งเมาส์ ขณะที่เลือกเมาส์ไปบนภาพ คุณจะเห็นเส้นประที่แสดงตำแหน่งของเมาส์ปรากฏบนไม้บรรทัดทั้งแนวตั้ง และแนวนอน
- ตั้งตำแหน่งศูนย์ ตามปกติตำแหน่ง 0, 0 ของไม้บรรทัดจะอยู่ที่มุมซ้ายบนสุดของภาพ ถ้าต้องการย้ายไปที่อื่น ทำได้โดยคลิกลากรูป ดังภาพ ไปยังตำแหน่งใหม่
- ตั้งตำแหน่งศูนย์กลับสู่ค่าเริ่มต้น ให้ดับเบิลคลิกที่รูป ดังภาพ
- เปลี่ยนหน่วยวัด ให้คลิกขวาที่ไม้บรรทัด แล้วเลือกหน่วยจากเมนูลัด (แนะนำให้เลือกหน่วยเป็น Pixels) โดยแต่ละหน่วยวัดมีความหมาย ดังนี้
> Pixels (พิกเซล) จุดสีที่เล็กที่สุดของภาพ
> Inches (นิ้ว)
> Centimeters (เซนติเมตร)
> Millimeters (มิลลิเมตร)
> Point (พอยต์) เท่ากับ 1/72 นิ้ว
> Picas (ไพก้า) เท่ากับ 12 พอยต์
> Percent (เปอร์เซ็นต์) เทียบกับความกว้าง หรือความสูงของภาพ
ปรับความคมชัด Unsharp Mask ใน Photoshop
Unsharp Mask เป็นคำสั่งที่ใช้ในการปรับความคมชัดให้กับภาพอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. เลือกคำสั่ง Filter > Sharpen > Unsharp Mask
2. ปรับค่าความคมชัด
- Amount: เป็นปริมาณความคมชัด ยิ่งใช้ค่าสูง ขอบของวัตถุในภาพจะดูคมชัดมากขึ้น
- Radius: ความกว้างของขอบที่ถูกปรับให้คมชัด
- Threshold: ความแตกต่างของสี และแสงเงาของบริเวณต่าง ๆ ในภาพ ซึ่งถือว่าเป็นแนวขอบที่จะต้องถูกปรับ โดยทั่วไปควรใช้ประมาณ 2-20 พิกเซล
3. เมื่อปรับได้ตามที่ต้องการแล้ว คลิกปุ่ม OK
ดีมากๆ เลยครับ
ตอบลบThank You.
ดีมากๆ เลยครับ
ตอบลบThank You.